Live Commerce คืออะไร? ทำไมการไลฟ์ขายของ ถึงเปลี่ยนเกมการตลาดออนไลน์?

เมื่อ : 22 ตุลาคม 2568
ผู้เข้าชม : 709
เขียนโดย :
Live Commerce คืออะไร? ทำไมการไลฟ์ขายของ ถึงเปลี่ยนเกมการตลาดออนไลน์?
Live Commerce คืออะไร? ทำไมการไลฟ์ขายของ ถึงเปลี่ยนเกมการตลาดออนไลน์?
เมื่อ : 22 ตุลาคม 2568
ผู้เข้าชม : 709
เขียนโดย :

Live Commerce คืออะไร? ทำไมการ 'ไลฟ์สดขายของ'
ถึงเปลี่ยนเกมการตลาดออนไลน์?

ณ ขณะนี้ หันไปทางไหน ก็เจอแต่ช่องทางไลฟ์สดขายของ (Live Commerce) ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในช่องทางขายสินค้าและบริการออนไลน์ที่ฮอตฮิตแบบปังไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ และไม่มีทีท่าว่ากระแสจะซาลงง่าย ๆ เราขอพาทุกท่านมาอ่านและทำความเข้าใจกันว่า ขายของไลฟ์สด คืออะไร ธุรกิจแบบไหนที่ควรขายผ่านช่องทางนี้

เนื้อหาภายในบทความ

Live Commerce คืออะไร ? (What is Live Commerce ?)

Live Commerce หรือที่ทุกคนรู้จักคำว่า “ไลฟ์สด” นิยามง่าย ๆ ก็คือ การขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์โดยใช้ช่องทางถ่ายทอดสด (Live Streaming) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการแบบเรียลไทม์ (Real-time) ต่อหน้ากลุ่มผู้ชมจำนวนมากได้พร้อมกันบนโลกออนไลน์ โดย Live Commerce เป็นส่วนหนึ่งของ Social Commerce หรือการตลาดออนไลน์บนโซเชียลมีเดียนั่นเอง

ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักผ่าน Facebook Live ตั้งแต่ช่วงที่ใช้เครื่องมือ Facebook Page หรือแม้แต่ Facebook บัญชีส่วนตัวที่มีฟีเจอร์ Live แต่ในปัจจุบัน หลาย ๆ แพลตฟอร์มทั้ง Instagram ก็เปิดช่องทางให้ถ่ายทอดสด หรือแม้แต่แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่าง Shopee ก็มีเซคชัน Shopee Live เพื่อให้ร้านค้าเพิ่มช่องทางการช้อปปิ้งที่สะดวก

แต่ช่องทางที่ใคร ๆ ก็คิดถึงเป็นที่แรก ก็คือ TikTok ที่มีทั้ง TikTok Shop ช่องทางช้อปปิ้งออนไลน์ที่ไม่มีใครไม้รู้จัก และเป็นแพลตฟอร์มที่พลิกโฉมวงการ Live Commerce ในประเทศไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ยิ่งในช่วง “เทศกาลเจนนี่” ที่มีผู้รับชมถ่ายทอดสดผ่าน TikTok "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" พร้อมกันแตะหลักล้าน ยิ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า TikTok เป็นที่นิยมในชาวไทยขนาดไหน

Live Commerce คืออะไร ? (What is Live Commerce ?)
ภาพจาก: https://www.youtube.com/shorts/RAJJQlDUvu0

เห็นได้ว่า Live Commerce ไม่ใช่แค่ช่องทางการซื้อขายแบบตรงไปตรงมา จ่ายเงินซื้อสินค้าแล้วจบ แต่นี่เป็นช่องทางที่รวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการสื่อสารสองทางระหว่างพ่อค้าแม่ค้ากับผู้ซื้อ ถาม-ตอบก่อนซื้อสินค้าได้ทันที, การสาธิตใช้งานสินค้า ที่ทำให้ผู้ชมเห็นภาพยิ่งขึ้น ไปจนถึงความบันเทิงขณะขายของที่สามารถกระตุ้นความสนใจของผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้าโดยง่าย นอกจากนี้ นี่ยังเป็นช่องทางโปรโมตแบรนดิ้ง (Branding) ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ดารา นักแสดง หรือนักธุรกิจที่ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

Live Commerce แตกต่างจากการขายของออนไลน์ทั่วไปอย่างไร ? (How is Live Commerce different from E-commerce seller ?)

Live Commerce ไม่ได้เป็นเพียงส่วนเสริมการขายสินค้าออนไลน์เท่านั้น แต่คือกลยุทธ์สำคัญที่เข้ามาพลิกโฉมการจำหน่ายสินค้าให้มีประสิทธิภาพและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทรงพลัง โดยมีจุดเด่นที่ช่วยสร้างความไว้วางใจให้แก่ผู้ซื้อดังต่อไปนี้

  • การสร้างปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ (Real-Time Interaction) ผู้ซื้อสามารถสอบถามข้อมูลสินค้าจากผู้ขายได้ทันที ผู้ขายก็สามารถตอบโต้ สาธิตใช้งานสินค้าได้แบบสด ๆ ในหลายครั้ง ผู้ซื้อจะเป็นผู้ให้ข้อมูลสะท้อนกลับ (Feedback) ที่มีค่าแก่ผู้ขาย ซึ่งอาจชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นหรือประโยชน์ของสินค้าที่ผู้ขายเองอาจมองข้ามไป
  • การสร้างความน่าเชื่อถือผ่าน Personal Branding หากเป็นร้านค้าที่มีผู้ขายคอยไลฟ์สดเรื่อย ๆ ก็จะสร้างภาพจำว่า นี่คือร้านค้าที่ขายสินค้าแบบนี้ พ่อค้าแม่ค้าคือคนนี้ (จดจำเมื่อได้เห็นหน้า) ยิ่งมีการพูดคุย สร้างเรื่องราวสนุกสนาน น่าสนใจ ไปจนถึงการสาธิตสินค้าที่ทำให้ผู้ซื้อเห็นภาพ ก็ทำให้ร้านค้าน่าเชื่อถือได้ไม่ยาก

Live Commerce แตกต่างจากการขายของออนไลน์ทั่วไปอย่างไร ? (How is Live Commerce different from E-commerce seller ?)
ภาพจาก: https://www.shopify.com/enterprise/blog/live-shopping

  • Live Commerce มักมาพร้อมกับกลยุทธ์จำกัดเวลา เช่น โปรโมชัน "Flash Sale" หรือ "ส่วนลดพิเศษเฉพาะในไลฟ์นี้เท่านั้น" ซึ่งสร้างแรงกระตุ้นและความเร่งด่วน ให้ผู้บริโภคตัดสินใจสั่งซื้อทันทีเพื่อไม่ให้พลาดโอกาส รวมถึงการที่ระบบอนุญาตให้ผู้ซื้อกดสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีขณะรับชมโดยไม่ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์ม ทำให้กระบวนการช้อปปิ้งเป็นไปอย่างราบรื่น ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็ว สามารถจับจ่ายใช้สอยได้ทุกที่ทุกเวลา
  • การขายผ่านไลฟ์สดคือการรวมการช้อปปิ้ง (Shopping) และความบันเทิง (Entertainment) เข้าไว้ด้วยกัน ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าในรูปแบบที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน และมีบุคลิกเฉพาะตัว เช่น การชวนผู้ชมพูดคุยเรื่องอื่น ๆ หรือการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งการนำเสนอรูปแบบนี้ช่วยให้ร้านค้าสามารถสร้างภาพจำ (Brand Awareness) และความผูกพัน (Loyalty) กับลูกค้าได้ง่ายกว่าการดูเพียงรูปภาพหรือข้อความ และการปรากฏตัวอย่างสม่ำเสมอของผู้ขาย ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในตัวบุคคล ทำให้ลูกค้าจดจำและไว้วางใจในร้านค้านั้น ๆ

ทำไมการไลฟ์สดขายของ จึงเปลี่ยนเกมการตลาดออนไลน์ ? (Why Live Commerce is Game Changer ?)

แม้จะเป็นช่องทางการซื้อขายออนไลน์เหมือน ๆ กัน แต่การไลฟ์สดขายของ เป็นสิ่งที่เปลี่ยนเกมการตลาดออนไลน์เลยทีเดียว ด้วยจุดเปลี่ยนหลายอย่างที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในหลาย ๆ ด้าน ดังต่อไปนี้

  • จากเดิมที่การซื้อสินค้าจะเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการของผู้บริโภค, การรับทราบข้อมูลสินค้า, รีวิวจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ใช้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ ฯลฯ แต่การซื้อสินค้าผ่าน Live Commerce เป็นการซื้อแบบแรงกระตุ้น (Impulse Buying) จากการถูกกระตุ้นด้วยบรรยากาศการซื้อขาย ความสนุกสนาน ตื่นเต้น และโปรโมชันพิเศษที่เร้าให้ผู้ซื้อรู้สึกคล้อยตามว่าไม่คควรพลาด ที่ทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจกดสั่งทันที
  • การสร้าง Brand Awareness และ Branding ผ่านผู้ขายหรืออินฟลูเอนเซอร์ การเลือกบุคคลที่มีภาพลักษณ์ บุคลิกที่สอดคล้องกับสินค้า ภาพลักษณ์แบรนด์หรือกลยุทธ์การขายผ่านตัวตน ทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและน่าจดจำยิ่งขึ้น
  • บนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok ที่ใช้พลังของ 'การค้นพบ' (Discovery) คือ การนำเสนอวิดีโอตามความสนใจเฉพาะบุคคล ทำให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่เคยมีความคิดจะค้นหามันเลยด้วยซ้ำ เพราะหลายครั้งที่ผู้บริโภคยังไม่รู้แน่ชัดว่าตัวเองต้องการอะไร อัลกอริทึมของ TikTok จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดสรรวิดีโอสินค้า เพื่อกระตุ้นความสนใจและการค้นหาต่อไป
  • ส่วนการวัดผลว่าการไลฟ์สดแต่ละครั้งประสบความสำเร็จหรือไม่ สามารถวัดได้เบื้องต้นจากยอดผู้ชม ยอดกดตะกร้า คอมเมนต์การมีปฏิสัมพันธ์ การกดไลก์กดแชร์ ฯลฯ เพราะนอกจากการสั่งซื้อสินค้า การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่นำไปสู่ยอดซื้อขายได้

ทำไมการไลฟ์สดขายของ จึงเปลี่ยนเกมการตลาดออนไลน์ ? (Why Live Commerce is Game Changer ?)
ภาพจาก: https://www.pexels.com/photo/a-woman-engaged-in-online-selling-7514845 (Photo by Kampus Production)

แล้ว Live Commerce เหมาะกับธุรกิจแบบใด ? (Which types of businesses suit Live Commerce ?)

แล้ว Live Commerce เหมาะกับสินค้า ธุรกิจแบบใดกันนะ เราขอแนะนำประเภทสินค้าที่เหมาะแก่การใช้ช่องทางไลฟ์สด แต่ไม่ได้แปลว่าสินค้านอกเหนือจากนี้จะขายผ่านการไลฟ์ไม่ได้นะ ขอให้คุณลองทำดูก่อน

  • สินค้าที่ต้องอาศัยการสาธิต หากมีตัวอย่างการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพและตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เช่น เครื่องสำอาง, เครื่องครัว, อุปกรณ์ทำความสะอาด, Gadget
    สินค้าที่มีประวัติ เรื่องราวน่าสนใจ หรือมีคอนเซ็ปต์ นำเสนอความเป็นสินค้าชิ้นนั้น รุ่นนั้นอย่างชัดเจน เช่น งานฝีมือ, เสื้อผ้าแฟชั่น
  • สินค้าลดล้างสต๊อกก็สามารถขายผ่านไลฟ์สดได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นของลดราคา ชิ้นสุดท้าย หมดแล้วหมดเลย ใคร ๆ ก็ชอบอยู่แล้ว ยิ่งสร้างบรรยากาศการขายให้น่าตื่นเต้นเร้าใจ สินค้าเหล่านี้ก็ขายหมดได้ไม่ยาก

แล้ว Live Commerce เหมาะกับธุรกิจแบบใด ? (Which types of businesses suit Live Commerce ?)
ภาพจาก: https://www.freepik.com/free-photo/woman-vlogging-with-her-sports-shoes_11274943.htm

  • สินค้าอีกประเภทที่คนต้องคิดถึงแน่ ๆ ก็คือ “อาหาร” ยิ่งมีใครมาชิมลิ้มลองอย่างน่าเอร็ดอร่อยให้ดูไป หิวไป ก็ต้องมีเผลอซื้อกันบ้าง ยิ่งผู้ซื้อที่มีความคิดว่า “สั่งให้คุ้มค่าส่ง” คราวนี้ล่ะ กดลงตะกร้าแบบหยุดไม่อยู่
  • อย่างไรก็ตาม สินค้าบางประเภท ไม่สามารถปิดการขายในการไลฟ์สดเสมอไป เช่น บ้าน รถยนต์ ประกันชีวิต ฯลฯ เพราะเป็นสินค้ามูลค่าสูง ต้องใช้ข้อมูล ความคิดเห็นหลายด้านก่อนตัดสินใจซื้อ แต่การใช้ Live Commerce เพื่อนำเสนอคุณสมบัติสินค้า โปรโมชัน หรือรีวิว ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจ

อยากเริ่มต้น Live Commerce สำหรับธุรกิจ ต้องทำอย่างไร ? (How to start Business's Live Commerce ?)

สำหรับการเริ่มต้นวางแผนกลยุทธ์ Live Commerce นั้น ต้องอาศัยองค์ประกอบสำคัญหลายส่วน ถ้าไม่อยากปวดหัวกับการวางแผนเพื่อ Live Commerce ในแต่ละครั้ง ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้

1. การวางแผนและเตรียมอุปกรณ์เริ่มต้น

ก่อนจะไปถึงการไลฟ์สร้างยอดขายสินค้าตลาดแตก ต้องวางแผนก่อนว่า ธุรกิจของคุณจะเริ่มขายสินค้าที่แพลตฟอร์มใด อาจเริ่มจาก 1 แพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มลูกค้าของคุณอยู่ที่นั่น และนั่นคือการเตรียมตัวควบคู่ไปกับการเตรียมอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น กล้องสำหรับถ่ายทอดสด อินเทอร์เน็ต ไฟ ไมโครโฟน รวมถึงการทดสอบระบบว่าภาพขณะไลฟ์สดเป็นอย่างไร ความดัง-เบาของเสียงเป็นอย่างไร สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีปัญหาหรือไม่ ฯลฯ

อยากเริ่มต้น Live Commerce สำหรับธุรกิจ ต้องทำอย่างไร ? (How to start Business's Live Commerce ?)
ภาพจาก: https://www.freepik.com/free-photo/medium-shot-girl-recording-her-makeup-routine_42085126.htm

2. เตรียมเนื้อหาของการไลฟ์สด

จริง ๆ แล้ว การไลฟ์สดก็ไม่ได้ท่องตามสคริปต์เป๊ะ ๆ เสมอไป แต่ก็ต้องมีการลำดับคร่าว ๆ ว่าการไลฟ์สดแต่ละครั้ง จะขายสินค้าชิ้นไหน สาธิตใช้งานสินค้าอย่างไร รวมถึงโปรโมชันของสินค้าชิ้นนั้น ๆ หรือสินค้าเด่นที่ต้องการโปรโมต หากจะไปแสดงกิริยาอ้ำอึ้งกลางไลฟ์คงไม่ดีเป็นแน่แท้ และอย่าลืมซ้อมการไลฟ์ตามแผนที่วางไว้ อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจ คีย์เวิร์ดโปรโมชันใด ๆ จะได้พูดแบบคล่องปาก ช่วยกระตุ้นการขายได้เป็นอย่างดี

3. เพิ่มเทคนิคการดึงดูดผู้ชม

สังเกตได้ว่า การไลฟ์ที่เป็นกระแส ดึงดูดผู้ชมได้ดี ส่วนใหญ่มาจากการที่ไลฟ์ครั้งนั้นมีเทคนิคดึงดูดผู้ชมให้ติดตาม ดูไลฟ์นาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคอมเมนต์ที่สนุกสนาน หรือให้ความกระจ่างแก่ผู้ชม, การสร้างความบันเทิงอย่างการเล่นเกม แจกรางวัล หรือแม้แต่โปรโมชันพิเศษสุด Flash Sale ก็ยังเป็นเทคนิคคลาสสิกที่ดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดี

สรุป Live Commerce คืออะไร ? (Conclusion of Live Commerce)

จะเห็นได้ว่า หากธุรกิจต้องการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) การนำกลยุทธ์ Live Commerce มาใช้จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม เพราะนี่เป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัลแห่งปี 2025 โดย Live Commerce ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางช้อปปิ้งออนไลน์เท่านั้น แต่เป็นการหลอมรวมการขาย (Commerce) และความบันเทิง (Entertainment) เข้าไว้ด้วยกัน และนี่คือกลยุทธ์ที่เปลี่ยนจากผู้ชมกลายเป็นลูกค้า ยิ่งมีการขายที่สนุกสนาน น่าติดตาม ยิ่งช่วยเปลี่ยนจากลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำ ลูกค้าที่มี Brand Loyalty ได้ไม่ยากเลย

ดังนั้น ธุรกิจที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของการขายออนไลน์แบบเดิมๆ และต้องการสร้างความสัมพันธ์อันแน่แฟ้น ให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อถือ ไว้ใจในแบรนด์ กลยุทธ์ Live Commerce จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ควรใช้ เพราะนี่คือเครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนตลาด E-Commerce ไทยให้คึกคักและเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป

ต้นฉบับ :